ฮันซี่ ฟลิค เผชิญความท้าทายปีที่สองกับบาร์ซ่า ต้องปรับปรุงระบบการป้องกัน

ฟลิคเริ่มต้นฤดูกาลที่สองในฐานะผู้จัดการทีมบาร์เซโลนา TA ระบุว่าฤดูกาลนี้ฟลิคจะต้องเผชิญหน้ากับการทดสอบที่แท้จริง โดยที่ระบบการป้องกันของทีมจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง

รายงานระบุว่า เมื่อยอฮัน ครัฟฟ์เป็นโค้ชบาร์เซโลนา ตำนานท่านนี้มักจะพูดว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในโครงการบริหารคือปีที่สองของการเป็นโค้ชสโมสร

ชาวดัตช์เชื่อว่าขั้นตอนนี้ยากเป็นพิเศษ เนื่องจากโค้ชต้องเผชิญกับแรงกดดันและความคาดหวังที่สูงกว่าช่วงฮันนีมูนในฤดูกาลแรกของพวกเขามาก พร้อมทั้งต้องเผชิญกับความเสี่ยงของการสร้างทีมใหม่ด้วย

นี่คือขั้นตอนที่บาร์เซโลนาของฟลิคกำลังก้าวเข้าสู่ อย่างไรก็ตาม หากจะพูดถึงเรื่องอดีตโค้ชต่อไป สถานการณ์ของสโมสรในปัจจุบันดูเหมือนเป็นเวอร์ชันเร่งด่วนของยุคไรจ์คาร์ด ซึ่งในเวลานั้นลาปอร์ตายังคงเป็นผู้นำทีมในระดับผู้บริหาร

หลังจากไรจ์คาร์ดเข้ารับตำแหน่งในปี 2003 ฤดูกาลแรกของเขาค่อนข้างประสบความสำเร็จ บาร์เซโลนาก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดและจบฤดูกาลที่สองในลาลีกา รองจากบาเลนเซีย ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ชัดเจนจากอันดับที่หกในฤดูกาลก่อนที่ฟาน กัลคุมทีม

ฤดูกาลถัดมา ทีมได้เสริมทัพนักเตะแข็งแกร่งอย่างเอโต้และเดโก และดูเหมือนพร้อมที่จะคว้าแชมป์ภายในประเทศ ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็คว้าแชมป์ลาลีกาและโกปาเดลเรย์ได้ วิวัฒนาการนี้ยังคงดำเนินต่อไป และอีกหนึ่งฤดูกาลต่อมา พวกเขายังเอาชนะอาร์เซนอลในรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกปี 2006 และคว้าถ้วยหูใหญ่ได้

ทีมของฟลิคคว้าสามแชมป์ในประเทศในฤดูกาลแรกของเขา ได้แก่ ลาลีกา โกปาเดลเรย์ และซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา และขุมกำลังภายใต้การคุมทีมของเขาแข็งแกร่งกว่าทีมที่ไรจ์คาร์ดเข้ารับตำแหน่งเสียอีก

ฤดูกาลใหม่ยังไม่เริ่มต้น แต่บาร์ซ่าทีมนี้ดูแข็งแกร่งกว่าเมื่อหนึ่งปีที่แล้วมาก ขวัญกำลังใจสูง นักเตะซึมซับปรัชญาของโค้ชได้เป็นอย่างดี บทบาทของนักเตะแต่ละคนได้รับการกำหนดไว้อย่างชัดเจนและยอมรับ ฮวน การ์เซียและแรชฟอร์ดที่เข้ามาในช่วงซัมเมอร์นี้ ช่วยยกระดับทีมในตำแหน่งที่ทีมโค้ชและผู้อำนวยการด้านกีฬาต้องการเสริมความแข็งแกร่ง

นักเตะบาร์เซโลนารู้ดีว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ในสภาพที่ดีมาก แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพวกเขาสามารถไปได้ไกลกว่านี้และประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ มีความรู้สึกว่ายังมีงานที่ยังไม่เสร็จ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับแชมเปียนส์ลีก การพ่ายแพ้ในรอบรองชนะเลิศต่ออินเตอร์ มิลานในฤดูกาลที่แล้วยังคงฝังลึกอยู่ในใจของสมาชิกทุกคนในห้องแต่งตัว และพวกเขาหวังว่าจะใช้สิ่งนี้เป็นแรงผลักดันในการไล่ตามความฝันที่สูงขึ้นอีกครั้ง

เป้าหมายยิ่งใหญ่มาก แต่ก็ยังมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุง เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับฟลิค ก็ไม่น่าแปลกใจที่ทราบว่าเขาตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นที่ครัฟฟ์ชี้ให้เห็นอย่างเต็มที่แล้ว

ฟลิคได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถรับมือกับความท้าทายเฉพาะตัวที่เกิดจาก "สภาพแวดล้อม" ของบาร์เซโลนา (คำอธิบายที่ครัฟฟ์เสนอมา ซึ่งหมายถึงสภาพแวดล้อมหรือบริเวณโดยรอบ) ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ไม่เหมือนใครที่รายล้อมสโมสรอยู่เสมอ

มีโค้ชน้อยรายที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากบรรยากาศที่ร้อนระอุเช่นนี้ ฟลิคได้แสดงให้เห็นถึง "พลังพิเศษ" บางอย่างในเรื่องนี้ เขามักจะหลีกเลี่ยงการเข้าไปพัวพันกับเสียงรบกวนรอบสโมสร ซึ่งแตกต่างจากโค้ชคนก่อนๆ หลายคน เขารู้ว่าแรงกดดันเหล่านี้มีอยู่จริง แต่เขาพยายามที่จะไม่ให้ความสนใจมากเกินไป บาร์เซโลนาไม่เพียงแต่ยอมรับวิธีการของเขาเท่านั้น แต่ยังได้ดำเนินการเพื่อทำให้เขาสามารถมุ่งเน้นไปที่งานของเขาได้มากขึ้น

ในฤดูร้อนนี้ บาร์เซโลนาได้ปรับโครงสร้างแผนกสื่อสารของพวกเขา โดยเพิ่มตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารทีมชุดใหญ่ ซึ่งรับผิดชอบโดย กาเบรียล มาร์ติเนซ ซึ่งเคยทำงานที่บริษัทประชาสัมพันธ์โรมันของบาร์เซโลนาและธนาคารสเปน Banco Sabadell

วัตถุประสงค์ของการดำเนินการนี้คือเพื่อให้ตำแหน่งใหม่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างฟลิค เดโก และผู้บริหารระดับสูงอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจหลักยังคงเป็นหนึ่งเดียวกัน และสื่อสารข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวในหัวข้อสำคัญของสโมสร

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้หมายความว่าฟลิคไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ซับซ้อนของบาร์เซโลนา แต่ให้มุ่งเน้นไปที่เรื่องราวในสนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการทำ

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฟลิคเผชิญอยู่ในปัจจุบันคือการปรับปรุงระบบการป้องกันของบาร์เซโลนา สถิติการป้องกันของทีมเขาในฤดูกาลที่แล้วไม่เลวร้ายนัก พวกเขาเสีย 39 ประตูในลาลีกา ซึ่งเป็นสถิติการป้องกันที่ดีที่สุดเป็นอันดับสี่ในลีก ตามหลังเรอัล มาดริดเพียง 1 ประตู และตามหลังแอตเลติโก มาดริด 9 ประตู และแอธเลติก บิลเบา 10 ประตู ในบางเกมและเมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งบางทีม ก็รู้สึกได้ว่าสถานการณ์อาจควบคุมไม่ได้

คำสั่งที่ดุดันของฟลิคที่เรียกร้องให้ทีมใช้แนวรับที่สูงมากนั้นได้ผลตอบแทน แต่กลยุทธ์นี้จะมีการปรับเปลี่ยนในฤดูกาลใหม่หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่า

นอกจากนี้ การจากไปของอินญิโก มาร์ติเนซก็เป็นปัญหาเช่นกัน กองหลังรายนี้เป็นส่วนสำคัญในระบบของฟลิค และการจากไปของเขาเป็นความสูญเสียที่ยากจะชดเชยเมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดด้านค่าเหนื่อยของบาร์เซโลนา

โค้ชชาวเยอรมันรู้สึกผิดหวังกับการจากไปของมาร์ติเนซ แต่เขายอมรับการตัดสินใจของกองหลัง ซึ่งหลังจากฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและเหลือสัญญาอีกหนึ่งปี มาร์ติเนซมีสิทธิ์เลือกอนาคตของตัวเอง

สิ่งนี้ทำให้บาร์เซโลนาต้องพึ่งพาอารัวโฮและคริสเตนเซ่นเพื่อเติมเต็มช่องว่าง รายหลังขาดหายไปเกือบทั้งฤดูกาลที่แล้วเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ในขณะที่อารัวโฮได้รับคำวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของเขาที่ยังไม่ดีที่สุด นี่คือจุดที่ความสามารถในการบริหารจัดการบุคลากรของฟลิคจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง

เขาได้ทุ่มเทความพยายามอย่างมากให้กับอารัวโฮ ผู้ใกล้ชิดกับกองหลังชาวอุรุกวัยยอมรับว่าอารัวโฮเคยประสบปัญหาความมั่นใจต่ำในบาร์เซโลนาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ในการลงเล่น 11 นัดที่เขาเป็นตัวจริง มี 3 นัดที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งแรกหรือก่อนหน้านั้น

แต่ฟลิคเห็นนักเตะที่มีสภาพร่างกายที่ไม่มีใครเทียบได้ เมื่ออารัวโฮต้องการเวลาหายใจในฤดูกาลที่แล้ว ฟลิคให้การสนับสนุน และในฤดูร้อนนี้เขาก็ได้รับโอกาสในการเตรียมตัวก่อนเปิดฤดูกาลอย่างเต็มที่

"อารัวโฮจะย้ายออกไปงั้นเหรอ ผมประหลาดใจกับข่าวลือเหล่านี้" ฟลิคกล่าวในระหว่างการทัวร์ญี่ปุ่นและเกาหลีในช่วงฤดูร้อนนี้ "ผมไม่ได้รับสัญญาณใดๆ ว่าเขาต้องการย้ายออกไป ผมพอใจมากกับฟอร์มการเล่นของเขาและทีมของผม"

ในนัดเปิดฤดูกาลลาลีกา อารัวโฮคาดว่าจะได้เป็นตัวจริง ฟลิคได้มอบโอกาสให้เขาพลิกฟื้นอาชีพการค้าแข้งกับสโมสร

อารัวโฮไม่ใช่ผู้เล่นคนเดียวที่ฟลิคพยายามรักษาและรวมเข้ากับทีม ยังมีมาร์ค แบร์นาร์ล กองกลางตัวรับวัย 18 ปีที่ได้รับบาดเจ็บเข่าจนต้องพักยาวทั้งฤดูกาลในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะที่เขากำลังก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่อย่างช้าๆ

ในระหว่างการฟื้นตัว ฟลิคได้อยู่เคียงข้างเขา ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลและตรวจสอบความคืบหน้าของเขา เขายังมอบหนังสือชื่อ "Beyond Your Limits" ซึ่งเขียนโดยนักจิตวิทยา ฮิลล์ มาร์ติน ให้กับเขาด้วย

เรายังสามารถดูตัวอย่างของกาวี่ได้ เขาไม่ได้มีฤดูกาล 2024-25 ที่สมบูรณ์แบบนักหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้า และไม่สามารถหาตำแหน่งที่มั่นคงในทีมได้ อย่างไรก็ตาม ฟลิคไม่เคยหยุดชื่นชมพรสวรรค์ของเขา และในฤดูกาลปรีซีซั่นนี้ นักเตะวัย 21 ปีรายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำไป 3 ประตูจาก 4 นัด

ยังมีเอริค การ์เซีย ที่จากเดิมที่เกือบจะย้ายออกจากบาร์เซโลนาอย่างถาวรในเดือนมกราคมปีที่แล้ว ตอนนี้มีแนวโน้มสูงที่จะได้ลงเป็นตัวจริงในสุดสัปดาห์นี้ ฟลิคได้ยับยั้งการย้ายทีมในช่วงฤดูหนาวของเขา และให้โอกาสนักเตะรายนี้ได้พิสูจน์ตัวเอง ตอนนี้เขาได้กลายเป็นนักเตะที่หลากหลายและชาญฉลาด และคาดว่าจะมีการต่อสัญญา

สถานการณ์ของเลวานดอฟสกี้ก็ไม่สามารถมองข้ามได้ กองหน้าใกล้จะอายุ 37 ปี และกำลังอยู่ในปีสุดท้ายของสัญญากับบาร์เซโลนา มีความเห็นภายในสโมสรว่านักเตะโปแลนด์อาจไม่ได้ลงสนามบ่อยเท่าฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเขาลงเล่น 52 นัดในทุกรายการและทำได้ 42 ประตู เมื่อพิจารณาจากอายุของเขา และบาร์เซโลนาจำเป็นต้องเริ่มวางแผนสำหรับผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา บทบาทของเฟร์รัน ตอร์เรสและแรชฟอร์ดอาจมีความสำคัญมากกว่าที่คาดไว้

เช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลทุกแห่ง ยังคงมีคำถามที่ยังไม่ได้แก้ไขและจุดที่ต้องปรับปรุงที่สำคัญที่ต้องจัดการด้วยความระมัดระวัง แต่แฟนบอลบาร์เซโลนายังคงมีเหตุผลที่เพียงพอที่จะเต็มไปด้วยความคาดหวังสำหรับฤดูกาลใหม่ โดยมีเงื่อนไขว่าปัญหาการลงทะเบียนนักเตะตามปกติของพวกเขาจะได้รับการแก้ไข และแผนการกลับสู่คัมป์ นูของสโมสรจะดำเนินไปอย่างราบรื่น

แม้ว่ารอบๆ สโมสรจะยังคงเต็มไปด้วยเสียงรบกวนทั้งปกติและไม่ปกติ แต่ปัจจัยหลักนั้นเรียบง่าย: บาร์เซโลนาไม่เคยใกล้เคียงกับการเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้มานานแล้ว และส่วนใหญ่เป็นเพราะการทำงานที่ซื่อสัตย์และพิถีพิถันของผู้จัดการทีมในฤดูกาลแรกของเขา ตอนนี้ เตรียมพบกับฤดูกาลใหม่ได้เลย